บางครั้งบทบาทของชีวิต ก็ทำให้เราไกลจากคนที่เรารักอย่างช่วยไม่ได้ แต่คงจะดีหากมีพื้นที่หนึ่ง อันเป็นพื้นที่ของเรา ที่เราช่วยกันสร้างไว้หล่อเลี้ยงให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวอุดมสมบูรณ์ เหมือนสวนป่าที่คงสีเขียวไว้ตลอดเวลา

ด้วยการทำงานที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศ เกือบครึ่งหนึ่งของเวลาทั้งหมดในแต่ละเดือน ระยะทางไกล ทำให้บางครั้งสัญญาณความถี่ของความผูกพันระหว่างบ้าน และครอบครัวบางเบาลงไปบ้าง คุณเต้ย วสุ นุรักษ์ จึงตัดสินใจRenovate พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าข้างบ้าน เป็นสวนกระชับพื้นที่ความรู้สึกให้สมาชิกในครอบครัวได้ใกล้กันยิ่งกว่าที่เคย

คุณวสุเล่าว่า “ครอบครัวผมไม่ได้ออกไปเที่ยวกันสักเท่าไร ผมเองก็ทำงาน ที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างต่างประเทศบ่อยครับ เลยอยากปรับมุมหนึ่งในบ้านที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นสวนประจำบ้านเรา และผมเองก็ชื่นชอบทิวทัศน์แบบป่าและไม้ใบอยู่แล้ว เพราะมันเป็นสีเขียวที่เราคุ้นเคย พอได้มานั่งอยู่ที่นี่ก็เลยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย”

โดยได้คุณรวี เครือตุ้ย นักจัดสวนฝีมือดีจาก ADD GREEN in Garden มา เปลี่ยนให้พื้นที่ขนาดกะทัดรัด ข้างตัวบ้าน ให้เต็มไปด้วยสุนทรียภาพ แบบสวนป่าที่อุดมไปด้วยสีเขียวจากไม้ใบหลากสายพันธุ์ และเสียงน้ำตกที่คลอเบาๆ จากระดับความสูงของชั้นหินที่ออกแบบไม่สูงเกินไปนัก ด้วยโจทย์จากเจ้าของบ้านระบุว่าไม่ต้องการให้เหมือนน้ำตกที่ไหลซู่ลงมาแบบรุนแรง ทางนักจัดสวนจึงออกแบบให้น้ำตกเป็นเหมือนตาน้ำ หรือจุดต้นกำเนิดของแหล่งน้ำในธรรมชาติ ที่ไหลมาจากภูเขาแบบเอื่อยๆจนเป็นลำธาร เกิดเป็นสวนป่าที่มีน้ำจากลำธารเล็กๆ เป็นองค์ประกอบให้ความสมจริงแบบป่ามากขึ้น

หินฟองน้ำ ถูกใช้จัดวางตามแนวลำธาร เพราะด้วยคุณสมบัติที่ เก็บความชื้นได้ดี รูปทรงเป็นธรรมชาติ น้ำหนักเบา จึงสามารถปลูกมอส แซมสลับกับไม้คลุมดินและไม้พุ่มเตี้ยบางชนิดสามารถขึ้นตามโขดหินได้ ซึ่งส่วนมากเป็นไม้ที่โตได้ดีด้วยกาบมะพร้าว ใช้ดินน้อย ชอบความชื้นสูงอย่างเช่น กนกนารีเลื้อย สะระแหน่ประดับเฟิร์นข้าหลวง คล้า เฟิร์นลูกไก่ จึงต้องพึ่งพาระบบหมอกเข้ามาช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในสวนให้เพียงพอ ให้ต้นไม้สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง จนเกิดระบบนิเวศน์ขนาดย่อมที่ทำให้ภาพรวมของสวนเป็น โทนสีเขียว ความดิบ ชื้น จากไม้ใบที่สุขภาพดีเหล่านี้ ส่วนไม้ประธานที่เลือกมาใช้คือ มะเม่า เสม็ดแดง ที่นอกจากจะมีฟอร์มสวยแล้ว ยังเป็นไม้ที่มีการร่วงของใบค่อนข้างต่ำ ซึ่งช่วยให้สวนป่าดูไม่รก

แน่นอนว่าการดูแลให้พื้นที่สวนให้เขียวสดชื่นตลอดเวลา ต้องแลกมาด้วยเวลาในการเอาใจใส่ดูแลที่มากขึ้น สำหรับใครหลายๆ คนอาจมองว่าเป็นภาระ แต่สำหรับคุณสุธีนั้น เขาถือว่าเวลาที่ให้ไปกับสิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่า เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับบ้าน และครอบครัว ในทุกๆ วันที่ต้นไม้แตกกิ่งสายสัมพันธ์ก็แข็งแรง ในทุกๆ วันที่ต้นไม้ผลิใบ ความรัก ความเข้าใจก็ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น มือของครอบครัว ดูแล ตัดแต่ง ใส่ปุ๋ยให้สายใยของครอบครัวได้เติบโตไปพร้อมกับต้นไม้เหล่านี้

“จริงๆ มันเพิ่มเวลาให้ผมนะครับ ผมต้องให้เวลากับมันมากขึ้น แต่ในอีกแง่การที่สมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันดูแล ก็เหมือนให้ทุกคนในครอบครัว มาอยู่รวมกันในช่วงเวลาหนึ่งของวัน คล้ายๆ เป็นสิ่งแวดล้อมที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนในบ้านมาแชร์ประสบการณ์ในแต่ละวันร่วมกันเช่นตอนเย็น ก็จะมีเวลาสัก 20 นาทีมานั่งคุยกัน โดยอาศัยมุมตรงนี้ ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ และเสียงน้ำไหล บรรยากาศชวนให้การแลกเปลี่ยนเรื่องราวของเราดูผ่อนคลายมากขึ้น อาจเริ่มด้วยคำถามทั่วไปอย่าง วันนี้ลูกไปเรียนอะไรมาบ้าง เจอปัญหาอะไรไหม เดินทางเป็นยังไง เพื่อนเป็นยังไง ฯลฯ เพราะการพูดคุยกันระหว่างคนในครอบครัวมีความสำคัญมาก มันทำให้เราใกล้ชิดกัน แม้บางคำถามอาจจะดูเล็กน้อย หรือไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร แต่มันช่วยย้ำเตือนให้เราไม่ลืมว่า เรายังมีครอบครัวคอยเป็นห่วง และอยู่เคียงข้างเสมอ

More Detail

ไม้ใบที่อยู่ในสวนป่าส่วนใหญ่ไม่ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกไม้ใหญ่เข้าช่วยกรองแสงในเวลากลางวันให้อยู่ที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ และรักษาอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 28-30 องศา ก็จะช่วยทำให้ใบเขียวอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี

Story ธนภัทร อีสา

Photographer นพพร ยรรยง

Host คุณสุธี ประโยชน์ทวีกิจ

Garden Designer คุณรวี เครือตุ้ย ADD GREEN in Garden Tel 086-3355455

บทความจาก เว็บไซต์ [https://lifeandhomemag.com]